อัพเดทสกินแคร์ 2019! หน้าเนียนขึ้น ผิวชุ่มฉ่ำมาก ได้ใช้แล้วติดใจสุดๆ

by theaapple
ครีมบำรุง

สวัสดีค่าเพื่อนๆ ครั้งนี้เปิ้ลจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ช่วงนี้ใช้เป็นประจำในกลางเดือนปี 2019 ที่ผ่านมา อยากบอกว่าใช้แล้วผิวดีขึ้นซึ่งไปเจอมาเป็น 2 ตัวเด็ดๆ เลยแล้วใช้เป็นประจำทาทุกวันตอนเช้า – เย็น แบบไม่ขาดเลย เพราะมีช่วงนึงผิวขาดน้ำ แห้งมากๆ และรู้สึกว่าสีผิวไม่สม่ำเสมอ เปิ้ลจะมารีวิวสกินแคร์ 4 ตัวที่จะมารีวิวมันกู้ผิวหน้าเปิ้ลได้ดีขึ้นมากๆ ไปอ่านต่อกันเล้ยยย!

ครีมบำรุง

ขั้นตอนที่ 1 บำรุงเซรั่ม: Levigne Timeless Soothing Serum 

 อันดับแรกเลย! หลังล้างหน้าเสร็จเปิ้ลจะบำรุงด้วยเซรั่มก่อนนั้นคือ Timeless Soothing Serum จากแบรนด์ Levigne ซึ่งมีสารสกัดจากองุ่นฮอกไกโดจากญี่ปุ่น และไฮยาลูรอน ช่วยบำรุงผิวเราให้ชุ่มชื้นขึ้น ใครที่ผิวแห้งขาดน้ำ รู้สึกว่าผิวเริ่มหย่อนคล้อยตัวนี้ช่วยได้มากๆ แถมช่วยให้ผิวก็จะเปล่งปลั่งขึ้นอีกด้วยนะจ๊ะ

ปกติเปิ้ลจะใช้บำรุงตอนเช้า และก่อนนอนทุกคืนทาลงไปทั่วใบหน้าเลยค่ะ แถมตัวนี้ยังใช้ได้กับสาวๆ ทุกสภาพผิว ใช้แล้วยิ่งช่วยลดริ้วรอยได้ด้วยนะ

ครีมบำรุง

แพคเกจ: ขวดขนาดพกพาง่าย ไม่เล็ก และไม่ใหญ่จนเกินไป เป็นขวดฝาปั๊ม ในขวดบรรจุ 15 ml. ใช้ได้นานอยู่เดือนกว่าๆ

 ลักษณะเนื้อเซรั่ม: เป็นเจลใส มีกลิ่นให้ความไวน์องุ่นมากๆ หอม ได้กลิ่นแล้วอยากกินไวน์เลยจ้า 55 เนื้อเซรั่ม ซึมไว เกลี่ยง่ายไม่ฝืดหน้า

ครีมบำรุง

เมื่อทาไปแล้วรอประมาณ 1 นาที เนื้อเซรั่ม Levigne ซึมเข้าสู่ผิวแล้วล่ะ ไม่ทำให้หน้าเราเหนียวเหนอะหนะด้วยนะ อันนี้ปลื้มมากๆ ค่ะ เอาไปเลย 10/10

ครีมบำรุง

ขั้นตอนที่ 2 ครีมบำรุงผิว: Levigne Timeless Awakening Cream

เซ็ตเดียวกับเซรั่มเลย ซื้อมาใช้ทั้งทีต้องยกเซ็ต 555 ครีมบำรุงตัวนี้มีสารสกัดจากองุ่นดำฮอกไกโดเช่นกันค่ะ ครีมตัวนี้เปิ้ลใช้ทาทุกวันเลยเช้า – เย็น เพราะช่วยปกป้องผิวจากฝุ่น ควันต่างๆ ได้ดีมาก คือช่วงที่เปิ้ลผิวแห้งแล้วทาครีมตัวนี้ทุกวันติดกันประมาณ 3 อาทิตย์ รู้สึกผิวแข็งแรงขึ้นจริงๆ ผิวมีความอิ่มฉ่ำน้ำ กระจ่างใสขึ้น ใช้ได้กับสาวทุกสภาพผิวเลยตัวนี้แนะนำจริงๆ อยากให้ลอง! 

ครีมบำรุง

แพคเกจ: ตัวครีม Levigne จะมาในรูปแบบกระปุกใช้กวักเนื้อครีมเอาด้านใน พกพาง่ายไม่ยุ่งยาก ขนาด 30 ml. ใช้ได้นานเลยค่ะสำหรับเปิ้ล ประมาณ 2-3 เดือน ไม่ต้องกวักเนื้อครีมเยอะเกินไปเวลาทา

ครีมบำรุง

ลักษณะเนื้อครีม: เป็นครีมสีขาว เมื่อถูๆ แล้วจะรู้สึกมีเม็ดบีทเล็กๆ กลิ่นแบบไวน์องุ่นเหมือนเซรั่มเลยค่ะ เนื้อครีมซึมแห้งไวเหมือนกัน เมื่อทาตอนเช้าแล้วรู้สึกหน้าไม่เยิ้มนะ ถือว่าผ่าน! 

ครีมบำรุง

เมื่อทาที่แขนแล้ว รอเนื้อครีมเซ็ตตัวประมาณ 1 นาที ซึมเข้าสู่ผิวไวเลย ไม่รู้สึกเหนียวจนเกินไป บางเบา

ครีมบำรุง

นี่หลังจากทาครีมเสร็จ! โชว์หน้าสดกันไปข้าง 555555 
(อันนี้หลังจากใช้มาแล้วประมาณ 3 อาทิตย์นะคะ ก่อนหน้านี้แบบเยินนิดนึง) 

ครีมบำรุง

ขั้นตอนที่ 3 เซรั่มบำรุงใต้ตา: The Ordinary Caffeine Solution 5% + EGCG

เซรั่มตัวนี้เปิ้ลใช้มานานมากเลยค่ะ ช่วยลดตาบวมของเราได้ แถมมีราคาที่ถูก มีส่วนผสมมาจาก antioxidant จาก caffeine และ EGCG ใช้สำหรับใครที่นอนน้อยแล้วตาดูคล้ำ ถุงใต้ตาก็จะค่อยๆ ลดลงล่ะ! ตัวนี้เปิ้ลเอาไว้ทาเช้า – เย็น ก่อนนอนทุกวัน ทาเฉพาะบริเวณใต้ตาเท่านั้น

ครีมบำรุง

แพคเกจ: แพคเกจชอบเลยสไตล์มินิมอลเรียบๆ และมีลักษณะเป็นขวดยา แต่ที่ไม่ชอบที่สุดเลยคือ! เมื่อใช้ไปนานๆ ตรงฝาขวดเนื้อเซรั่มจะไปเกาะที่ขอบฝา แล้วมันดูสกปรกไม่ค่อยน่าใช้เท่าไหร่

ครีมบำรุง

ลักษณะเนื้อเซรั่มใต้ตา: เป็นเจลใสสีเหลืองหน่อยๆ ไม่มีกลิ่นเลยสักนิดค่ะ เนื้อเจลซึมไว 

ครีมบำรุง

ขั้นตอนที่ 4 ฉีดสเปรย์บำรุงผิว: Aesop Immediate Moisture Facial Hydrosol 

ตัวนี้เป็นสเปรย์ฉีดผิวที่เปิ้ลชอบฉีดหลังทาครีมบำรุงเสร็จทั้งหมด ตัวนี้กลิ่นหอมมากเลยค่ะ แบบสมุนไพรสไตล์แบบอโรม่า ซึ่งมีสารสกัดจากกลีบกุหลาบ ช่วยทำให้ผิวรู้สึกสดชื่น หรือเฟรชมากขึ้น หรือพกใส่กระเป๋าเวลาออกไปข้างนอกก็ได้ค่ะ 

ครีมบำรุง

แพคเกจ: สเปรย์ของ Aesop ตัวนี้จะเป็นตัวปั๊มเหมือนแบรนด์ทั่วๆ ไปเลย ติดอย่างเดียวราคาค่อนข้างสูง แต่แพคเกจทำมาจากพลาสติก

ครีมบำรุง

เปรียบเทียบใบหน้าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถึงช่วงเดือนมิถุนายน 62 นี้

คือก่อนหน้านี้สิวเห่อขึ้นเยอะมากเลยค่ะ และผิวแห้งช่วงขอบจมูก และข้างแก้ม ถ้าสังเกตุดีๆ พอใช้ครีมที่เปิ้ลแนะนำไปทั้ง Levigne, The ordinary และ aesop รู้สึกว่าผิวดีขึ้นมากๆ คือรู้สึกว่าเซ็ตบำรุงผิวของ Levigne ช่วยกู้ผิวหน้าได้ดีขึ้นมาก ติดใจ 555 

ขอถ่ายรูปหน่อยค่าา เวลาเมคอัพแต่งหน้าออกจากบ้านก็จะรู้สึกมั่นใจขึ้น เมื่อผิวเราสุขภาพดี จริงๆ เราไม่ต้องบำรุงผิว 7-8 ตัว ผิวก็สวยฉ่ำน้ำ ผิวเนียนแบบธรรมชาติได้นะ ถ้ามีอะไรดีๆ หรือสกินแคร์ตัวไหนที่ช่วงนี้ใช้แล้วโดนใจเดี๋ยวจะมาแนะนำให้อีกรอบ! 

You may also like

Leave a Comment